Difference between revisions of "Hdrive eco spec hdrive b spec hdrive eco spec"
Steamjelly9 (talk | contribs) (Created page with "h-drive eco spec [https://www.folkd.com/submit/www.repowerthailand.com// h-drive b spec] hdrive eco spec ระวัง โช๊คอัพ รถยนต์ พัง! [h...") |
Steamjelly9 (talk | contribs) m |
||
Line 1: | Line 1: | ||
− | + | [https://git.mosaic.njaes.rutgers.edu/hotkorean6 h-drive eco spec =] -drive eco spec h-drive b spec hdrive eco spec ระวัง โช๊คอัพ รถยนต์ พัง! ใช้รถยนต์จำเป็นต้องดู-รู้ก่อนเสียเงินซ่อม<br />โช๊คอัพ รถยนต์ มีกี่แบบ , เลือกยังไง , เช็คอย่างไรว่าเสีย , ซ่อมแซมหรือแปลงดี...?สวัสดีท่านเจ้าของรถทุกท่านขอรับ วันนี้ “Milework” จะมาเคลียคำถามให้ได้รู้กัน เรียกได้ว่าเมื่ออ่านบทความนี้จบแล้ว “คุณจำเป็นต้องต้องการรีบกลับไปเช็ครถของคุณเลยที่เดียว”ว่ากันเรื่องการใช้รถยนต์ในวันแล้ววันเล่า พวกเราๆท่านๆมักจะดูแลรถยนต์ h-drive eco spec h-drive b spec hdrive eco spec เพียงแค่การไป ล้าง อัด ฉีดในวันหยุดเพียงเท่านั้น บางครั้งไม่ให้ความสนใจระบบต่างๆที่สำคัญโน่นเป็น ระบบช่วงล่าง ที่นอกเหนือจากการที่จะช่วยเรื่องความนุ่มนวลแล้ว ท่านทราบหรือไม่ครับ? อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนน h-drive eco spec [https://www.openstreetmap.org/user/English%20Stanley ] [http://www.drugoffice.gov.hk/gb/unigb/www.repowerthailand.com/ h-drive b spec] hdrive eco spec บ่อยมาก เป็นเพราะว่าระบบช่วงล่างของรถยนต์มีปัญหา ด้วยเหตุดังกล่าวอีกความสำคัญหนึ่งก็คือ "ยึดรถกับผิวถนนรวมทั้งช่วยประเด็นการทรงตัวของรถ" นั่นเองโดยทั่วไปอาจจะมีหลากหลายชนิด แต่ว่าลักษณะการทำงานไม่ได้ต่างอะไรกันนัก ซึ่งแนวทางการทำงานในขณะนี้ มีอยู่ 2 จังหวะ คือ จังหวะยืด แล้วก็ จังหวะยุบ เอาง่ายๆว่า ในขณะขับรถตอนล่างจะรอผ่อนแรงขณะยุบและก็ยืดตัวอยู่ตลอดเวลา ช่วยคุ้มครองไม่ให้ขณะเบรคเฉียบพลันแล้วหน้ารถทิ่มแทงลง<br />23/11/2018 โดย Champ Mileworkระวัง โช๊คอัพ รถยนต์ พัง! ใช้รถยนต์ต้องดู-ทราบก่อนที่จะเสียเงินซ่อม<br />โช๊คอัพ รถยนต์ มีกี่แบบ , เลือกยังไง , เช็คยังไงว่าเสีย , ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนดี...?สวัสดีท่านเจ้าของรถทุกคนขอรับ วันนี้ “Milework” จะมาเคลียเรื่องที่น่าสงสัยให้ได้ทราบกัน เรียกได้ว่าเมื่ออ่านบทความนี้จบแล้ว “คุณจำต้องต้องการรีบกลับไปเช็ครถของคุณเลยที่เดียว”ว่ากันเรื่องการใช้รถยนต์ในทุกวัน เราๆท่านๆชอบดูแลรถยนต์เพียงแค่การไป ล้าง อัด ฉีดในวันหยุดเพียงเท่านั้น บางทีละเลยระบบต่างๆที่สำคัญโน่นเป็น ระบบช่วงล่าง ที่นอกเหนือจากที่จะช่วยเรื่องความนิ่มนวลแล้ว ท่านทราบไหมขอรับ? อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนบ่อย เป็นเพราะเหตุว่าระบบช่วงล่างของรถมีปัญหา ด้วยเหตุนี้อีกความสำคัญหนึ่งก็คือ "ยึดรถยนต์กับผิวถนนและช่วยประเด็นการทรงตัวของรถยนต์" นั่นเองโดยทั่วไปอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีหลากหลายชนิด แม้กระนั้นลักษณะการทำงานไม่มีความต่างกันนัก ซึ่งแนวทางการทำงานในตอนนี้ มีอยู่ 2 จังหวะหมายถึงจังหวะยืด รวมทั้ง จังหวะยุบ เอาง่ายๆว่า ในขณะขับรถตอนล่างจะคอยผ่อนแรงขณะยุบและก็ยืดตัวอยู่ตลอดเวลา ช่วยคุ้มครองไม่ให้ขณะเบรคกระทันหันแล้วหน้ารถทิ่มแทงลง<br />โช๊คอัพ รถยนต์ โช๊ค โช๊คอัพ โช๊ครถยนต์ โช๊ครถปิคอัพ โช๊ครถเก๋งตรวจสอบราคาโช๊คอัพ คลิ๊กมีกี่แบบเราบางทีอาจเคยได้ฟัง แบบเดิมๆกับ แบบแต่ง ก็อาจมีคำถามสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ปกติอย่างพวกเราๆว่ามีด้วยหรือ? [https://www.empowher.com/users/heliumevent9 h-drive eco spec =] ้วที่ว่าแบบเดิมกับแต่ง ต่างกันอย่างไร? แล้วต้องเปลี่ยนแปลงไหม ? ก็จะบอกอย่างงี้ครับผมว่าบางทีก็อาจจะไม่มีความสำคัญในเรื่องที่ท่านขับขี่บนถนนในเมือง ซึ่งแบบแต่งนั้นจะนิยมในกรุ๊ปนักแต่งรถยนต์ หรือนักแข่งสายซิ่งที่ปรารถนาเพิ่มสมรรถนะของรถในการขับขี่ การยึดเกาะถนนหนทาง อย่างนั้นมาดูกันว่าของเดิมๆมีกี่แบบ<br />1. ชนิดกระบอกคนเดียว (Mono Tube)ลักษณะของกระบอก จะเป็นชิ้นเดียวตามชื่อ แต่ว่าแบบลำพังนี้จำเป็นมากที่จะต้องใช้สิ่งของที่มีความแข็งแรง-คงทนสูง สามารถรับแรงชนได้อย่างดีเยี่ยม แม้ตัวกระบอกไม่แข็งแรงเพียงพอ แน่นอนว่าจะมีปัญหาสำหรับการรับแรงจากรถทั้งยังคันรวมทั้งแรงจากพื้นตอนที่กำลังขับขี่ อาจจะทำให้กระบอกเบี้ยวผิดรูปผิดร่าง h-drive eco spec h-drive b spec hdrive eco spec แม้กระนั้นเพียงแค่ทนทานสิ่งเดียวก็คงจะน้อยเกินไป อุปกรณ์ที่ใช้ผลิตยังจะต้องมีน้ำหนักค่อยอีกด้วย จึงได้รับความนิยมในกลุ่มนักซิ่ง นักแต่งรถ ก็เลยทำให้ราคาแพงแพงกว่าแบบอื่น<br /><br /><br />2. ประเภทกระบอกคู่ (Twin Tube)เป็นแบบที่ใช้งานกันอยู่ทั่วๆไป ที่เรียกว่ากระบอกคู่ ก็เนื่องจากข้างในเป็นกระบอกสองชั้น (มีการดำเนินการของกระบอกที่ซับซ้อนกว่าแบบ Mono Tube พอสมควร) กระบอกข้างในปฏิบัติหน้าที่เป็น “กระบอกสูบ” ซึ่งมีน้ำมันที่ออกแบบมาเป็นพิเศษบรรจุไว้ข้างใน ส่วนช่องว่างด้านนอก จะเป็น “ช่องสำรองน้ำมัน” แบ่งเป็นอีก 2 แบบหมายถึงแบบน้ำมันอย่างเดียวเรียก “จำพวกกระบอกคู่-แบบน้ำมัน” จะมีน้ำมันใส่ราว 2 ใน 3 ที่เหลือจะเป็นอากาศ การที่บรรจุน้ำมันในจำนวนที่มากช่วยในหัวข้อการเคลื่อนที่นุ่มนวล อีกจำพวกยอดนิยมในปัจจุบันเป็น ประเภทกระบอกคู่-แบบแก๊ส” ก็จะบรรจุ “ก๊าซ” เอาไว้ภายในช่องน้ำมันสำรองนี้ด้วย โดย"ก๊าซ"นี้จะช่วยสำหรับในการสนองตอบที่เร็วทันใจทั้งยังการคืนตัวเร็ว-ยุบช้า แต่ว่าจะมีความแข็งแรงมากยิ่งกว่าแบบน้ำมัน (แก๊สพากเพียรดันสู้ตลอดระยะเวลา) ก็ได้หัวข้อการเกาะถนนหนทางที่ดี ลดอาการโยกตัว แม้กระนั้นความนุ่มนวลก็จะลดลงกว่าแบบน้ำมันสรุปคุณลักษณะเด่นของ จำพวกกระบอกคู่เป็นทุนการสร้างถูกกว่า ตัวอุปกรณ์ไม่จำเป็นที่จะต้องคงทนเหมือน ประเภทกระบอกลำพัง เนื่องจากว่ากระบอกสูบจริงๆนั้นอยู่ข้างใน ข้างนอกเป็นช่องน้ำมันสำรอง ก็เลยไม่ค่อยพบปัญหาในเรื่องความแข็งแรง ทำให้ราคาไม่สูงมากมาย จึงเป็นที่นิยมรวมทั้งใช้กันอยู่ทั่วๆไปแถมสำหรับผู้ที่พอใจ โช๊คอัพ รถยนต์ แบบแต่ง จะแบ่งเป็น 3 แบบ<br />1.จำพวกปรับความสูงไม่ได้ลักษณะเสมือนของเดิมๆที่ติดมากับรถ เพียงมีการพัฒนาให้มีความสามารถที่สูงขึ้น หนึบแน่นยึดเกาะพื้นถนนเจริญขึ้น ซึ่งสังเกตว่าจะไม่สามารถที่จะปรับความสูงได้ เบ้าสปริงจะมีขนาดใหญ่เท่าของเดิมที่ผลิตมาจากโรงงาน เหมาะสำหรับผู้ที่ประทับใจความหนึบโดยยิ่งไปกว่านั้น และก็พอใจกับระดับความสูงจากพื้นของตัวรถ ไม่อยากให้โหลดหรือยกสูงมากไป<br />2.จำพวกสตรัทปรับเกลียวได้รับความนิยมพอเหมาะพอควร รอบๆเบ้าสปริงสามารถปรับให้สูง-ต่ำได้ตามที่ผู้ครอบครองรถพึงพอใจ มีสปริงทรงกระบอก เรียกว่า สปริงหลอด ที่ปรับความแข็งแรงหรือเรียกว่า “ค่า K.” ได้ ส่วนขนาดก็มีนานาประการให้เลือก ซึ่งจะมองเห็นได้ว่าปรับปรุงมาจากแบบแรกนั่นเอง ได้รับความนิยมเยอะที่สุดในวงการมอเตอร์สปอร์ตบ้านเรา<br />3. ประเภทสตรัทปรับเกลียว-แบบสไลด์กระบอกแบบสไลด์กระบอก สามารถปรับความสูงที่ตัวกระบอกได้เลย ไม่ต้องไปยุ่งยากปรับที่เบ้าสปริงแล้ว ช่วยแก้ปัญหาหัวข้อการปรับความ สูง แม้กระนั้นการปรับให้สมรรถณะการทำงานโดยรวมออกมาดีนั้นเกิดเรื่องที่ท้าพอควร นักซิ่งที่ใช้รถยนต์ h-drive eco spec h-drive b spec [https://www.fcc.gov/fcc-bin/bye?https://www.repowerthailand.com/ hdrive eco spec] สำหรับในการแข่งขันต้องการสมรรถนะสูงๆทำให้อายุการใช้งานของรถยนต์สั้นลง การปรับความสูงของสปริงก็จะยากขึ้นตามภาวะของรถสรุปของแต่ง มีประโยชน์เช่นไรดูแล้ว ถ้าหากพวกเราๆท่านๆขับในเมืองทั่วไป คงไม่จำเป็นที่ต้องไปเปลี่ยนแปลงของเดิมๆจะแปลงอีกรอบก็เปลี่ยนแปลงตามสภาพของอะไหล่ที่หมดอายุใช้งานแล้ว ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดียิ่งกว่า ส่วนนักแข่งขัน สายซิ่ง ที่จะต้องเพิ่มความสามารถให้รถก็เห็นจะหลบลี้มิได้ แต่ข้อระวังคงเกิดเรื่อง “การโหลดรถยนต์โดย “ตัดสปริง” ที่จำต้องใช้ช่างมีฝีมือสำหรับการทำและก็ตรวจเช็คอย่างละเอียดก่อนใช้จริง เนื่องมาจากมีโอกาสที่กระบอกสูบจะหักได้ช่วงเวลาที่ใช้งาน<br /> |
Revision as of 13:46, 26 February 2021
h-drive eco spec = -drive eco spec h-drive b spec hdrive eco spec ระวัง โช๊คอัพ รถยนต์ พัง! ใช้รถยนต์จำเป็นต้องดู-รู้ก่อนเสียเงินซ่อม
โช๊คอัพ รถยนต์ มีกี่แบบ , เลือกยังไง , เช็คอย่างไรว่าเสีย , ซ่อมแซมหรือแปลงดี...?สวัสดีท่านเจ้าของรถทุกท่านขอรับ วันนี้ “Milework” จะมาเคลียคำถามให้ได้รู้กัน เรียกได้ว่าเมื่ออ่านบทความนี้จบแล้ว “คุณจำเป็นต้องต้องการรีบกลับไปเช็ครถของคุณเลยที่เดียว”ว่ากันเรื่องการใช้รถยนต์ในวันแล้ววันเล่า พวกเราๆท่านๆมักจะดูแลรถยนต์ h-drive eco spec h-drive b spec hdrive eco spec เพียงแค่การไป ล้าง อัด ฉีดในวันหยุดเพียงเท่านั้น บางครั้งไม่ให้ความสนใจระบบต่างๆที่สำคัญโน่นเป็น ระบบช่วงล่าง ที่นอกเหนือจากการที่จะช่วยเรื่องความนุ่มนวลแล้ว ท่านทราบหรือไม่ครับ? อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนน h-drive eco spec [1] h-drive b spec hdrive eco spec บ่อยมาก เป็นเพราะว่าระบบช่วงล่างของรถยนต์มีปัญหา ด้วยเหตุดังกล่าวอีกความสำคัญหนึ่งก็คือ "ยึดรถกับผิวถนนรวมทั้งช่วยประเด็นการทรงตัวของรถ" นั่นเองโดยทั่วไปอาจจะมีหลากหลายชนิด แต่ว่าลักษณะการทำงานไม่ได้ต่างอะไรกันนัก ซึ่งแนวทางการทำงานในขณะนี้ มีอยู่ 2 จังหวะ คือ จังหวะยืด แล้วก็ จังหวะยุบ เอาง่ายๆว่า ในขณะขับรถตอนล่างจะรอผ่อนแรงขณะยุบและก็ยืดตัวอยู่ตลอดเวลา ช่วยคุ้มครองไม่ให้ขณะเบรคเฉียบพลันแล้วหน้ารถทิ่มแทงลง
23/11/2018 โดย Champ Mileworkระวัง โช๊คอัพ รถยนต์ พัง! ใช้รถยนต์ต้องดู-ทราบก่อนที่จะเสียเงินซ่อม
โช๊คอัพ รถยนต์ มีกี่แบบ , เลือกยังไง , เช็คยังไงว่าเสีย , ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนดี...?สวัสดีท่านเจ้าของรถทุกคนขอรับ วันนี้ “Milework” จะมาเคลียเรื่องที่น่าสงสัยให้ได้ทราบกัน เรียกได้ว่าเมื่ออ่านบทความนี้จบแล้ว “คุณจำต้องต้องการรีบกลับไปเช็ครถของคุณเลยที่เดียว”ว่ากันเรื่องการใช้รถยนต์ในทุกวัน เราๆท่านๆชอบดูแลรถยนต์เพียงแค่การไป ล้าง อัด ฉีดในวันหยุดเพียงเท่านั้น บางทีละเลยระบบต่างๆที่สำคัญโน่นเป็น ระบบช่วงล่าง ที่นอกเหนือจากที่จะช่วยเรื่องความนิ่มนวลแล้ว ท่านทราบไหมขอรับ? อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนบ่อย เป็นเพราะเหตุว่าระบบช่วงล่างของรถมีปัญหา ด้วยเหตุนี้อีกความสำคัญหนึ่งก็คือ "ยึดรถยนต์กับผิวถนนและช่วยประเด็นการทรงตัวของรถยนต์" นั่นเองโดยทั่วไปอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีหลากหลายชนิด แม้กระนั้นลักษณะการทำงานไม่มีความต่างกันนัก ซึ่งแนวทางการทำงานในตอนนี้ มีอยู่ 2 จังหวะหมายถึงจังหวะยืด รวมทั้ง จังหวะยุบ เอาง่ายๆว่า ในขณะขับรถตอนล่างจะคอยผ่อนแรงขณะยุบและก็ยืดตัวอยู่ตลอดเวลา ช่วยคุ้มครองไม่ให้ขณะเบรคกระทันหันแล้วหน้ารถทิ่มแทงลง
โช๊คอัพ รถยนต์ โช๊ค โช๊คอัพ โช๊ครถยนต์ โช๊ครถปิคอัพ โช๊ครถเก๋งตรวจสอบราคาโช๊คอัพ คลิ๊กมีกี่แบบเราบางทีอาจเคยได้ฟัง แบบเดิมๆกับ แบบแต่ง ก็อาจมีคำถามสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ปกติอย่างพวกเราๆว่ามีด้วยหรือ? h-drive eco spec = ้วที่ว่าแบบเดิมกับแต่ง ต่างกันอย่างไร? แล้วต้องเปลี่ยนแปลงไหม ? ก็จะบอกอย่างงี้ครับผมว่าบางทีก็อาจจะไม่มีความสำคัญในเรื่องที่ท่านขับขี่บนถนนในเมือง ซึ่งแบบแต่งนั้นจะนิยมในกรุ๊ปนักแต่งรถยนต์ หรือนักแข่งสายซิ่งที่ปรารถนาเพิ่มสมรรถนะของรถในการขับขี่ การยึดเกาะถนนหนทาง อย่างนั้นมาดูกันว่าของเดิมๆมีกี่แบบ
1. ชนิดกระบอกคนเดียว (Mono Tube)ลักษณะของกระบอก จะเป็นชิ้นเดียวตามชื่อ แต่ว่าแบบลำพังนี้จำเป็นมากที่จะต้องใช้สิ่งของที่มีความแข็งแรง-คงทนสูง สามารถรับแรงชนได้อย่างดีเยี่ยม แม้ตัวกระบอกไม่แข็งแรงเพียงพอ แน่นอนว่าจะมีปัญหาสำหรับการรับแรงจากรถทั้งยังคันรวมทั้งแรงจากพื้นตอนที่กำลังขับขี่ อาจจะทำให้กระบอกเบี้ยวผิดรูปผิดร่าง h-drive eco spec h-drive b spec hdrive eco spec แม้กระนั้นเพียงแค่ทนทานสิ่งเดียวก็คงจะน้อยเกินไป อุปกรณ์ที่ใช้ผลิตยังจะต้องมีน้ำหนักค่อยอีกด้วย จึงได้รับความนิยมในกลุ่มนักซิ่ง นักแต่งรถ ก็เลยทำให้ราคาแพงแพงกว่าแบบอื่น
2. ประเภทกระบอกคู่ (Twin Tube)เป็นแบบที่ใช้งานกันอยู่ทั่วๆไป ที่เรียกว่ากระบอกคู่ ก็เนื่องจากข้างในเป็นกระบอกสองชั้น (มีการดำเนินการของกระบอกที่ซับซ้อนกว่าแบบ Mono Tube พอสมควร) กระบอกข้างในปฏิบัติหน้าที่เป็น “กระบอกสูบ” ซึ่งมีน้ำมันที่ออกแบบมาเป็นพิเศษบรรจุไว้ข้างใน ส่วนช่องว่างด้านนอก จะเป็น “ช่องสำรองน้ำมัน” แบ่งเป็นอีก 2 แบบหมายถึงแบบน้ำมันอย่างเดียวเรียก “จำพวกกระบอกคู่-แบบน้ำมัน” จะมีน้ำมันใส่ราว 2 ใน 3 ที่เหลือจะเป็นอากาศ การที่บรรจุน้ำมันในจำนวนที่มากช่วยในหัวข้อการเคลื่อนที่นุ่มนวล อีกจำพวกยอดนิยมในปัจจุบันเป็น ประเภทกระบอกคู่-แบบแก๊ส” ก็จะบรรจุ “ก๊าซ” เอาไว้ภายในช่องน้ำมันสำรองนี้ด้วย โดย"ก๊าซ"นี้จะช่วยสำหรับในการสนองตอบที่เร็วทันใจทั้งยังการคืนตัวเร็ว-ยุบช้า แต่ว่าจะมีความแข็งแรงมากยิ่งกว่าแบบน้ำมัน (แก๊สพากเพียรดันสู้ตลอดระยะเวลา) ก็ได้หัวข้อการเกาะถนนหนทางที่ดี ลดอาการโยกตัว แม้กระนั้นความนุ่มนวลก็จะลดลงกว่าแบบน้ำมันสรุปคุณลักษณะเด่นของ จำพวกกระบอกคู่เป็นทุนการสร้างถูกกว่า ตัวอุปกรณ์ไม่จำเป็นที่จะต้องคงทนเหมือน ประเภทกระบอกลำพัง เนื่องจากว่ากระบอกสูบจริงๆนั้นอยู่ข้างใน ข้างนอกเป็นช่องน้ำมันสำรอง ก็เลยไม่ค่อยพบปัญหาในเรื่องความแข็งแรง ทำให้ราคาไม่สูงมากมาย จึงเป็นที่นิยมรวมทั้งใช้กันอยู่ทั่วๆไปแถมสำหรับผู้ที่พอใจ โช๊คอัพ รถยนต์ แบบแต่ง จะแบ่งเป็น 3 แบบ
1.จำพวกปรับความสูงไม่ได้ลักษณะเสมือนของเดิมๆที่ติดมากับรถ เพียงมีการพัฒนาให้มีความสามารถที่สูงขึ้น หนึบแน่นยึดเกาะพื้นถนนเจริญขึ้น ซึ่งสังเกตว่าจะไม่สามารถที่จะปรับความสูงได้ เบ้าสปริงจะมีขนาดใหญ่เท่าของเดิมที่ผลิตมาจากโรงงาน เหมาะสำหรับผู้ที่ประทับใจความหนึบโดยยิ่งไปกว่านั้น และก็พอใจกับระดับความสูงจากพื้นของตัวรถ ไม่อยากให้โหลดหรือยกสูงมากไป
2.จำพวกสตรัทปรับเกลียวได้รับความนิยมพอเหมาะพอควร รอบๆเบ้าสปริงสามารถปรับให้สูง-ต่ำได้ตามที่ผู้ครอบครองรถพึงพอใจ มีสปริงทรงกระบอก เรียกว่า สปริงหลอด ที่ปรับความแข็งแรงหรือเรียกว่า “ค่า K.” ได้ ส่วนขนาดก็มีนานาประการให้เลือก ซึ่งจะมองเห็นได้ว่าปรับปรุงมาจากแบบแรกนั่นเอง ได้รับความนิยมเยอะที่สุดในวงการมอเตอร์สปอร์ตบ้านเรา
3. ประเภทสตรัทปรับเกลียว-แบบสไลด์กระบอกแบบสไลด์กระบอก สามารถปรับความสูงที่ตัวกระบอกได้เลย ไม่ต้องไปยุ่งยากปรับที่เบ้าสปริงแล้ว ช่วยแก้ปัญหาหัวข้อการปรับความ สูง แม้กระนั้นการปรับให้สมรรถณะการทำงานโดยรวมออกมาดีนั้นเกิดเรื่องที่ท้าพอควร นักซิ่งที่ใช้รถยนต์ h-drive eco spec h-drive b spec hdrive eco spec สำหรับในการแข่งขันต้องการสมรรถนะสูงๆทำให้อายุการใช้งานของรถยนต์สั้นลง การปรับความสูงของสปริงก็จะยากขึ้นตามภาวะของรถสรุปของแต่ง มีประโยชน์เช่นไรดูแล้ว ถ้าหากพวกเราๆท่านๆขับในเมืองทั่วไป คงไม่จำเป็นที่ต้องไปเปลี่ยนแปลงของเดิมๆจะแปลงอีกรอบก็เปลี่ยนแปลงตามสภาพของอะไหล่ที่หมดอายุใช้งานแล้ว ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดียิ่งกว่า ส่วนนักแข่งขัน สายซิ่ง ที่จะต้องเพิ่มความสามารถให้รถก็เห็นจะหลบลี้มิได้ แต่ข้อระวังคงเกิดเรื่อง “การโหลดรถยนต์โดย “ตัดสปริง” ที่จำต้องใช้ช่างมีฝีมือสำหรับการทำและก็ตรวจเช็คอย่างละเอียดก่อนใช้จริง เนื่องมาจากมีโอกาสที่กระบอกสูบจะหักได้ช่วงเวลาที่ใช้งาน